ดูเหมือนจะยังไม่จบง่าย ๆ ซะแล้วกับประเด็นความขัดแย้งระหว่างนักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน คำวิลัยศักดิ์ กับนักแสดงสาว เอ๋ อัจฉรา หลังฝ่ายหญิงออกมาแฉเรื่องธุรกิจค่ายมวยที่ หนุ่มโตโน่ ถือหุ้นอยู่ด้วย แต่กลับถอนหุ้นออกไปกลางคันด้วยเหตุที่แบ่งผลประโยชน์ไม่ลงตัว จนทำให้ส่งผลกับธุรกิจอย่างหนัก
ล่าสุดนักร้องหนุ่ม โตโน่ ภาคิน ก็ได้ออกมาชี้แจงว่าข้อมูลที่ฝ่าย เอ๋ อัจฉรา เปิดเผยกับสื่อนั้นบางส่วนไม่เป็นความจริง โดยจริงนั้นมีอยู่ 2 ฉบับที่เป็นต้นเหตุของความขัดแย้งในครั้งนี้
ฉบับแรก เป็นสัญญาร่วมหุ้นเปิดค่ายมวยระหว่าง 3 หุ้นส่วนคือ ครูเป็ด เอ๋ และโตโน่ ซึ่งค่าสมัครสมาชิกยิมและค่าอุปกรณ์ต่างๆ เช่น กางเกง เสื้อ นวม ที่จำหน่ายอยู่ในยิมนั้น ต้องแบ่งรายได้ตามสัดส่วนที่ตกลงกันคือ เอ๋ 40% ครูเป็ด 30% โตโน่ 30% ซึ่งยิมนั้นตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านของเอ๋ และเอ๋คิดค่าเช่าที่ต่างหากกับครูเป็ดและโตโน่ โดยไม่รวมกับสัดส่วนที่แบ่งกัน รวมถึงมีข้อกำหนดว่าพื้นที่ของเอ๋นั้นจะขึ้นค่าเช่าที่ทุกปี ปีละ 5% และบอกทำสัญญาครั้งแรก 10 ปี แต่ภายหลังเปลี่ยนเป็น 5 ปี ซึ่งจุดนี้ทุกคนก็ยินยอมเซ็น
สัญญาฉบับที่ 2 สัญญาการจำหน่ายอุปกรณ์ต่างๆ เช่น เสื้อ กางเกง นวม ที่จำหน่ายด้วยตนเองคือจำหน่ายนอกยิม อาทิ ขายที่ค่ายเจริญทองของครูเป็ด, ขายใน IG ของโตโน่ โดยในส่วนนี้จะแบ่งสัดส่วนรายได้เป็น ครูเป็ด 40% โตโน่ 40% และเอ๋ 20% แม้ก่อนหน้านี้ครูเป็ดจะเสนอไปว่า ให้โตโน่ 70% เอ๋และครูเป็ด 15% แต่โตโน่ไม่ขอรับเพิ่ม ยังยืนยันส่วนแบ่งเดิม 40/40/20 ตามที่ตกลงไว้ข้างต้น ซึ่งตรงกันข้ามกับที่ สาว เอ๋ อัจฉรา ให้สัมภาษณ์ออกสื่อไปเมื่อคราวก่อนว่า โตโน่มีหุ้น 30% แต่จะเอาส่วนแบ่งรายได้ 70% เพราะอ้างว่าแฟนคลับเยอะกว่า ถือเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง
และอีกประเด็นที่ สาว เอ๋ อัจฉรา ให้สัมภาษณ์ว่าเคยเจอตัวโตโน่หลายครั้งแล้ว แต่เจ้าตัวหนุ่ม โตโน่ ยืนยันว่าเคยเจอกันเพียงครั้งเดียว คือวันที่ไปดูสถานที่ยิม ซึ่งก็คือพื้นที่บ้านของเอ๋ และในวันนั้นเองก็ได้เจอทนายที่เอ๋เตรียมมาให้ทำสัญญาเลยตั้งแต่วันแรกที่เจอกันซะด้วย
ต่างฝ่ายต่างออกมาชี้แจงคนละทางแบบนี้ เห็นทีปมขัดแย้งจะไม่จบลงง่ายๆ ซะแล้ว อย่างไรก็คงต้องติดตามบทสรุปกันต่อไป
