ลดน้ำหนัก 12 กิโลใน 4 ปี!! สวยได้โดยไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน
สาวๆที่กำลังประสบปัญหาความอ้วนมาเยือน แล้วกำลังมองหาวิธีลดความอ้วนแบบปลอดภัยไม่เร่งรีบ ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน ลองมาอ่านประสบการณ์การลดน้ำหนักของคุณสมาชิกหมายเลข 4181144 สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักของตัวเอง 12 กิโลที่ใช้เวลายาวนานถึง 4 ปี และเธอก็ทำสำเร็จ โดยที่เธอไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วนเลย เธอเล่าในอดีตเธอเคยกินยาลดน้ำหนัก มันทำให้น้ำหนักลดจริง แต่พอหยุดกินยาน้ำหนักก็กลับขึ้นมาเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ และที่สำคัญมันทำให้ ระบบเผาผลาญพัง
หลังจากนั้นเธอจึงหันมาใช้วิธีการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารแทน โดยเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างแรก งดกาแฟสด เพราะเธอเป็นคนที่ติดกาแฟสดมาก ต่อมาเธอก็ลดอาหารพวกแป้ง ไขมัน น้ำตาล เธอจะไปคำนวณหาค่า BMI และ BMR ก่อน ว่าร่างกายต้องการพลังงานกี่แคลอรี่ และเลือกรับประทานอาหารที่มีพลังงานแคลอรี่ไม่เกินจากที่คำนวณมา โดยเธอจะไม่อออาหาร แต่จะทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เลือกทานอาหารที่มีพลังงานแคลอรี่ไม่มาก ไม่บังคับตัวเองให้รีบลดอาหารจนเกินไป และเธอก็ออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วย ตลอดระยะเวลา 4 ปี เธอมีวินัย อดทนและตั้งใจกับการลดน้ำหนักมาก ทำให้น้ำหนักลดไป 12 กิโลกรัม ถึงแม้ว่ามันจะเป็นการลดน้ำหนักที่ใช้เวลานาน แต่มันก็ปลอดภัย สุขภาพแข็งแรง น้ำหนักไม่กลับมาโยโย่เหมือนตอนทานยาลดน้ำหนัก
ขอแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนัก 12 กิโลที่แสนยาวนานของตัวเองค่ะ
ถ้าภาษาเราไม่น่าอ่านหรือทำผิดกฎกติกาอะไรไป ขออภัยไว้ ณ กระทู้นี้ด้วยจ้า เรามือใหม่แห่งวงการรีวิวจริงๆค่ะ 5555
และต้องบอกก่อนเลยว่าเราไม่ใช่กูรูหรือผู้เชียวชาญด้านการลดน้ำหนักนะคะไม่ได้มีความรู้หรือทฤษฎีอะไรมาก เราลดตามแบบของเรา แบบที่ก็พยายามศึกษาความรู้ให้มากที่สุด แต่ถ้าผิดพลาดตรงไหนหรือควรเพิ่มอะไรแนะนำกันได้เลยนะคะ
เข้าเรื่องกันเลยเนาะ อิอิ
อันดับแรก เอารูปตอนอ้วนไปดู
ไปชั่งแทบทุกวันมันก็ขึ้นเรื่อยๆก็ยังไม่ซีใดๆ โนสน โนแคร์ค่ะ 555 สนใจแค่วันนี้จะได้กินอะไรอร่อยๆ แอบเข้าข้างตัวเองว่าพวกที่หุ่นดีๆต้องทรมานมาก ชีวิตเกิดมาอดๆอยากๆไม่ได้กินของอร่อยๆ เรานี่โชคดีไม่ต้องลดไม่ต้องพยายามเพื่อใคร ทำเพื่อตัวเองคืออยากกินอะไรก็กิน อยากนอนก็นอน 555 เราอาจจะเป็นคนที่ไม่ถือว่าอ้วนมากนะคะ แต่ก็อ้วนน่ะแหละ 555 คือเป็นผู้หญิงอวบระยะสุดท้าย ด้วยเหตุนี้แหละ เหตุผลที่ว่าก็ไม่ได้อ้วนมากซะหน่อย ไม่ได้หนักเป็นร้อยเมื่อไหร่ล่ะ มันจึงทำให้เราไม่คิดจะลดสักที ซึ่งจริงๆแล้วก่อนหน้านี้เราเป็นคนที่เรียกว่าอวบเฉยๆนะคะ คือยังไม่เข้าขั้นอ้วน หนักประมาณ 54-55 กิโล สมัยเรียนมหาวิทยาลัย
คือจะอยู่ประมาณนี้ แต่ก็ถือว่าอ้วนกว่าเพื่อนๆในกลุ่ม จึงหันไปพึ่งพายาลดน้ำหนัก (เข้าประเด็นยาลดน้ำหนักแล้วยาวค่ะ 555)
– หลังจากจบมหาวิทยาลัยเราก็ไม่เลิกนะคะ ยี่ห้อไหนดียี่ห้อไหนดัง แพงๆยิ่งชอบเพราะเชื่อว่าคงจะดี 555 ดาราเป็นเจ้าของก็เคยลองมาแล้ว
แพงด้วย กล่องนึงเกือบ 2,000 เงินเดือนหมดไปกับค่ายานี่แหละ สุดท้ายพอหยุดก็เข้าระบบเดิม ดีดเพิ่มกว่าเดิม ก็วนหายี่ห้ออื่นมากินอีก จนสุดท้ายจาก
55 กิโลที่เราคิดว่าอ้วน กลายเป็น 67.7 กิโลนี่แหละค่ะ หมูดีๆนี่เอง 555
จิตตกสุดก็ตรงที่ เมื่อก่อนเวลาเราถ่ายรูปรวม กับบางคนที่เราเคยน้ำหนักพอๆกับเค้า ไซร์ใกล้ๆกัน คือตอนนี้เราแซงหน้าทุกคนแล้ว
หลังจากที่เราตัดสินใจว่าสงสัยต้องเริ่มลดบ้างแล้ว สิ่งแรกที่เราทำเลยก็คือ งดกาแฟสดค่ะ ใช่ค่ะเราติดกาแฟสด ชอบสั่งที่สุดก็คือม็อคค่าเย็นหวานน้อยค่ะ ก็พยายามจะให้ไม่ได้รู้สึกผิดเท่าไหร่ก็จะสั่งหวานน้อย แต่ไม่ได้คิดถึงนมถึงนมข้นหวานช็อคโกแลตที่จัดเต็มเลยว่ามันเป็นผลขนาดไหน
มีร้านประจำทุกที่ ไปที่ไหนขอเบอร์เค้าไว้ตลอด โทรสั่งตอนเช้าเดี๋ยวเข้าไปรับ เรียกได้ว่าติดมาก กินทุกวัน แต่ก็แค่วันละแก้วนะคะ มากกว่านั้นไม่ไหวใจสั่นทั้งคืน ทีนี้ก็เลยตัดสินใจเลิกค่ะ เลิกกาแฟสดนะคะ โดยตอนแรกหากาแฟที่ช่วยเรื่องการเผาผลาญใน 7-11 มาทานแทน มียี่ห้อนึงเราชอบรสชาติมาก คล้ายๆม็อคค่าเลยค่ะ คือกินแล้วไม่อยากกาแฟสดเลยค่ะ ซองนึง 60 แคล แต่เราไม่จบนะคะ เราชง 2 ซอง เติมโกโก้ไปด้วยและบางทีก็ใส่นมสดด้วยค่ะ 555 (วิถีคนอ้วนใช่มั้ยคะ) ตกแก้วนึงก็ประมาณ 150-160 แคล
ค่ะ เคยได้ยินกันใช่มั้ยคะ ทำตามคลิป T25 เราเล่นแค่ Alpha ค่ะ มี 5 คลิป ก็ทำตามตารางนะคะ บางคลิปไม่ไหวก็ไม่ทำค่ะ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเล่นจนจบนะคะ วันแรกๆก็ปวดเมื่อยสุดๆหลังๆก็เริ่มชินค่ะ ใจสู้มากตอนนั้น ทำไปได้จนครบ 1 เดือน เรื่องกินอื่นๆก็ปกติไม่ได้ลดอะไรเลยค่ะ กินขนมกินข้าวครบทุกมื้อ 555
ทำไปได้ประมาณ 4 เดือน น้ำหนักจาก 67.7 ลดลงมาเหลือ 63 กิโลค่ะ ดีใจมาก รู้สึกดีขึ้นเยอะค่ะ คือไม่อึดอัดตัวเหมือนเมื่อก่อน แต่ก็ยังไม่ผอมนะคะ ก็จัดอยู่ในกลุ่มอ้วนเหมือนเดิม เพียงแต่ลดลงมาหน่อย
คือลดลงมาจนมีคนทักว่าผอมลง แต่ก็น้อยค่ะเพราะมันลดลงมาน้อย และก็ยังจัดว่าอ้วนอยู่ดี ตอนนั้นหยุดเลยค่ะ คือคิดว่าพอแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะลดเพิ่มเพราะรู้สึกไม่ได้มีแรงบันดาลใจอะไรหรือจะลดไปทำไม จุดประสงค์คือแค่ให้ลดลงไม่อึดอัดเหมือนเดิมแค่นั้นเอง ก็เลยหยุดการลด แต่กาแฟยังกินแบบเดิมนะคะ ชงเอง แต่ไม่ได้ออกกำลังกายแล้ว ก็อาจจะมีบ้างแต่น้อยค่ะ ไม่ได้ทำตามตาราง น้ำหนักก็ไม่ได้ขึ้นนะคะ หยุดที่ 63 อยู่
เราอยากทำแบบนี้ไปตลอดชีวิต เราไม่อยากมีช่วงนี้ไดเอทนะ ช่วงนี้ลดน้ำหนักนะ พอได้ตามเป้าก็หยุด กลับมากินเหมือนเดิมใช้ชีวิตเหมือนเดิม สุดท้ายก็กลับมาเป็นช่วงไดเอทใหม่ แบบนี้มันจะทรมานและน่าเบื่อมากกว่านะคะเราว่า เราเลยทำแบบไม่รีบ นี่อาจจะเป็นข้อดีของคนที่ไม่อ้วนมากแบบเรานะ 5555 คือไม่ได้เร่งรีบอะไร ทำไปเรื่อยๆ ลดได้ก็ดี ลดไม่ได้ก็เป็นผู้หญิงอวบ(แต่สวย) ต่อไป ชีวิตก็แค่นี้เนาะ 555***
***อีกหนึ่งตัวอย่างนะคะ
บางทีเราเห็นเพื่อนเราที่อ้วนมากๆเป็นร้อยโล คือเค้าลดน้ำหนักได้จริงนะคะ ออกกำลังกายหักโหมมาก และกินคลีนทุกมื้อ ลดลงมา 4 เดือน 20 โลอะไรแบบนี้ แล้วสุดท้ายก็กลับไปอ้วนเหมือนเดิม คือเราเห็นเค้ากิน มื้อเช้าขนมปัง 2 แผ่น โยเกิร์ต 1 ถ้วย กลางวันส้มตำไก่ย่างครึ่งไม้ เย็นสลัดผัก ปลาดุกย่าง อะไรแบบนี้ คือคนอ้วนทีน้ำหนักตัวเป็นร้อยโล ทานแค่นี้ไม่อิ่มหรอกค่ะ เรามั่นใจว่าช่วงแรกๆเค้าต้องทรมานมากแน่ๆ คือเมนูพวกนี้คนผอมอาจจะทานได้แต่ถ้าเราอ้วนก็คือมันไม่เหมาะกับเรา สุดท้ายเพื่อนก็กลับมาอ้วนอีกและก็ต้องเข้าช่วงหักโหมลดอีก วนอยู่แบบนี้
สำหรับเราเราจะไปคำนวณหาค่า BMI และ BMR ก่อน แต่ที่สำคัญก็คือ BMR (หาเว็บคำนวณได้เลยนะคะ) คือดูว่าเราอายุเท่านี้ สูงเท่านี้หนักเท่านี้ ใช้พลังงานต่อวันกี่แคล เช่น ถ้าไปคำนวณได้พลังงานที่ใช้ต่อวัน 2000 แคล เราก็จะเลือกทานอาหารที่แคลลดลงมาเหลือสัก 1700-1800 แคล ไม่ใช่ทานอาหารที่รวมๆแล้วได้แค่ 1 พันแคลต้นๆเพื่อเร่งการลดอะไรแบบนี้ พอเข้าใจมั้ยคะ (หลักการที่หลายๆคนก็ทราบอยู่แล้ว) มันจะกลายเป็นหักโหมจนเกินไปและโยโย่ได้ แค่นี้น้ำหนักเราก็จะค่อยๆลดลงมาแล้วค่ะอย่าใจร้อนเลยนะคะ ทำให้มันเป็นเรื่องสนุกและอย่าไปเร่งรัดมากดีกว่าค่ะ
ถึงไหนแล้วน้า 5555 …
หลังจากที่เราเริ่มลดน้ำหนักรอบที่ 2 เข้าสู่ปี 2560 เราก็ลดลงมาได้เหลือ 60-61 โลค่ะ ก็ลดจากปี 59 มาได้ประมาณ 3 โล
ส่วนอาหารก็ทานคลีนมากขึ้น บางมื้อทานนอกบ้านก็ทานปกติค่ะ สูตรเดิมเลยค่ะคือไม่หักโหมและเอาที่เราสบายค่ะ ลดน้ำตาล ลดไขมัน ลดขนมจุกจิกของหวาน แค่นี้ยังไงก็ลดค่ะ
ถึงช่วงอวดหุ่นแล้ว ขออวดหน่อยนะคะ 555
ภาพนี้ประมาณเมษา 62 หนัก 56.6
กลับมาดูรูปเก่าๆทีไรก็อดภูมิใจในตัวเองไม่ได้ทุกทีค่ะ 555
ใครสงสัยตรงไหนหรืออยากสอบถามอะไรเพิ่มเติมหลังไมค์ได้นะคะ เราไม่เคยตั้งกระทู้แบบนี้ไม่รู้ว่าทำอะไรผิดพลาดหรืออธิบายอะไรไม่ละเอียดรึป่าว ต้องขออภัยล่วงหน้าค่ะ เป้าหมายต่อไปคือลดให้เหลือ 50 โลค่ะ ไม่รู้จะทำได้มั้ยแต่ก็ทำเรื่อยๆค่ะ เป็นกำลังใจให้ด้วยนะคะ และก็ขอเป็นกำลังใจให้ทุกๆคนที่อยากจะลดน้ำหนักและเปลี่ยนแปลงตัวเองค่ะ