ทำเอาเจ้าตัวออกอาการร้อนใจสุดๆเมื่อมีกระแสข่าวเม้าท์ออกว่ามา ผู้จัดมือทองอย่าง เอ ศุภชัย เกิดอาการไม่ปลื้ม สั่งเด็กในสังกัด เดียร์น่า ฟลีโป ห้ามเล่นละครคู่ ท็อป จรณ อีก
เท่านั้นยังไม่พอยังมีกระแสออกมาอีกว่าผู้จัด ยุวดี ไทยหิรัญ ไม่ปลื้มเด็กในสังกัดของพี่เอ อย่าง ริชชี่ อมราวดี ที่ได้รับเลือกให้มาเล่นละคร แต่กลับทำฉากเลิฟซีนไม่ได้ ถึงขนาดพูดว่าต้องกับไปฝึกให้ได้มากกว่านี้ก่อน ไหนจะปัญหาที่คนเม้าท์กันว่าเด็กรุ่นใหม่ที่ปั้นนี้ไม่ค่อยจะเปรี้ยงเท่าไหร่ พอมีโอกาสได้เจอพี่เอ เลยได้สอบถามถึงเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งเจ้าตัวก็ได้ชี้แจงให้ฟังว่า
มีข่าวว่าพี่เอไม่อยากให้เดียร์น่าเล่นละครคู่กับท็อปอีก ?
“ไม่จริงเลยครับเรื่องนี้ พี่เอคุยกับน้องท็อปแล้ว และได้อ่านข่าวเหมือนกัน ก็ตกใจ พี่เอไม่เคยพูดแบบนี้เลย ข่าวออกมายังไงก็ไม่ทราบ สำหรับเรา น้องเราจะเล่นกับใครก็ได้หมด เป็นเรื่องที่ช่องเห็นสมควร บทบาทไหนก็รับได้หมด มันเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟมาก พี่เอไม่แคร์หรอกถ้าใครจะว่าพี่ แต่เราแคร์บุคคลที่สามที่ตกเป็นข่าว อย่างเรื่องนี้พี่เอไม่ได้พูด น้องท็อปก็ถูกโยงเข้ามาให้พี่เอไม่ชอบเขา แบบนี้แฟนคลับเขาก็เข้าใจผิด พี่เลยให้เดียร์น่าช่วยคุย”
แสดงว่าซีเรียสกับข่าว ?
“ซีเรียสครับ เพราะมันเป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อหลายบุคคล ถ้าเป็นพี่เอคนเดียวไม่แคร์หรอก จะออกมาแก้ต้วให้ฟังเมื่อไหร่ก็ได้ แต่นี้มันหลายคน เราร้อนใจต้องรีบยกหูให้เดียร์น่าช่วยเคลียร์ให้ เพราะพี่เอไม่ได้รู้จักกับท็อปเป็นการส่วนตัว”
ตอนนี้เคลียร์กันเรียบร้อยแล้ว ?
“ค่ะ ท็อปเข้าใจไม่ว่าอะไรเลย”
พอทราบสาเหตุไหมว่าข่าวออกมายังไง ?
“อาจจะเพราะว่า ก่อนหน้านี้น้องเดียร์น่าอาจจะเคยมีข่าวได้เล่นละครกับน้องท็อป แต่พอผังเปลี่ยน ปรับบท คนเลยคิดว่าอาจเป็นเพราะพี่เอก็ได้ แต่จริงๆเรื่องนี้เป็นสิ่งที่ช่องกำหนด และดูเรื่องคิวของนักแสดง”
ตอนนี้ยังห่วงอะไรอีกไหม ?
“พี่เอห่วงในเรื่องเขาทำงาน พี่เอเป็นคนหลังงาน ส่งน้องๆไปแสดงหน้างาน ตัวเราเองก็เคยออกงานอยู่บ่อยๆเวลาเราเจอคนที่มีปัญหา มันก็จะเกิดความไม่สบายใจ เพราะฉะนั้นพี่เอคิดว่าเราต้องเคลียร์หน้างานให้ดีที่สุด ให้เขาสบายใจที่สุด การที่มันเกิดเรื่องแบบนี้จากตัวเรา เราก็ยิ่งต้องรีบเคลียร์ทันที”
น้องรับละครปีละเรื่อง เป็นเพราะผู้ใหญ่สั่งหรือเปล่า ?
“ไม่ใช่ครับ เอาเรื่องคิวเป็นหลัก ตอนนี้น้องเดียร์น่ากำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ต้องเรียนหนัก พี่เอบอกเสมอห้ามทิ้งเรื่องเรียนเพราะเป็นเรื่องที่สำคัญมาก แต่ถ้าเรียนเสร็จน้องสามารถรับละคร 2 เรื่องได้ แต่ตอนนี้ยังเรียนอยู่ เลยรับเรื่องเดียวไปก่อน”
พักหลังๆเด็กที่ปั้นจะไปไม่ถึงคำว่าซุปเปอร์สตาร์ ?
“จริงๆพี่เอว่าซุปเปอร์สตาร์ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน การที่เราเจอซุปเปอร์สตาร์มันเหมือนเป็นอุบัติเหตุ อย่างรถวิ่งบนท้องถนนมีเป็นล้านคัน แต่จะเกิดอุบัติเหตุเพียงสิบคันถึงร้อยคันบนโลกใบนี้ ซุปเปอร์สตาร์ก็เหมือนกัน พี่เอพูดเลยว่าทุกวันนี้คนเดินมาหาพี่เอเยอะมากแต่ไม่เอา เพราะรู้สึกว่าถ้ามาตรฐานเท่าเดิมหรือน้อยกว่าเดิมก็ไม่อยากได้ รอให้มันใช่จริงๆดีกว่า บางทียังไม่จุติลงมาเกิดเลยก็ได้ ก็ยังรอได้อยู่ แต่บางทีเน้นปริมาณเด็กแต่ไม่มีคุณภาพก็ไม่ใช่ เราวางตัวเด็กไว้แต่ก็ไม่สามารถบอกได้ว่าคนนี้จะดังกว่าคนนี้ จะดังเท่าคนนี้ก็ไม่ได้ แต่บอกได้แค่ว่าตอนนี้เรามีอาวุธอยู่ในมือพร้อมรบค่ะ เรามีเตรียมไว้แล้ว แต่ยังไม่อยากเปิดตัวออกมา รอให้พร้อมทุกอย่างแล้วปล่อยตู้มทีเดียวดีกว่า”
กับน้องริชชี่ ดูเหมือนว่าก็มีปัญหากับผู้จัดเรื่องการแสดง ?
“อ๋อ คือจะอธิบายว่าน้องริชชี่เนี้ยทางยูม่าได้ขอเราไว้ตั้งแต่เรื่องที่แล้วล่ะว่าจะเอาไปเล่นละคร ซึ่งเราก็ได้บอกเขาไปว่าน้องยังไม่พร้อมนะคะ ขอเวลาเรียนแอคติ้งก่อน พอเรื่องล่าสุดเราก็บอกว่าเอาไปดู ให้ลองแคสติ้งทุกอย่าง ทางนั้นก็บอกมาว่าชอบมาก แต่จะบอกว่าการแคสติ้งมันก็ไม่ได้เห็นทุกบทบาทที่ต้องใช้แสดงจริง พอทำจริงก็อาจทำไม่ได้ อย่างฉากเลิฟซีน น้องไม่เคยก็ทำไม่เป็น แต่บางบทที่เหมาะกับเขา เขาก็ทำได้ พี่ก็มีโอกาสได้คุยกับน้อง น้องก็ขอเวลาเรียนรู้ ฝึกประสบการณ์ไปเรื่อยๆ”
เรียกน้องมาคุยแล้ว ?
“คุยครับ น้องก็ขอโทษที่ทำให้พี่เอไม่สบายใจ พี่ก็บอกไม่ใช่เลย พี่เอไม่ได้ไม่สบายใจ แต่แค่อยากรู้ว่ามันเกิดอะไรกันขึ้น เพราะที่ผ่านมาก็มีคนชมว่าน้องโอเค แต่พอซีนสุดท้ายที่เลิฟซีนมามีปัญหาเพราะน้องเล่นไม่ได้ เราก็ได้ติดต่อโทรไปหาทีมงาน แต่ตอนนั้นปิดเครื่องเลยไม่ได้คุย พี่เอมองว่าสิ่งที่อายุวดีพูดทำให้น้องได้ไปปรับพัฒนาตัวเอง พี่เอไม่ได้เข้าข้างน้องตัวเองเลย ก็บอกเรียกมาดุและตักเตือนด้วย ต้องเพิ่มอารมณ์กิเลส รัก โลภ โกรธ หลง ให้มากกว่านี้ ซึ่งน้องเขายังใสไป ไม่มีพ่อแม่คนไหนที่จะทิ้งลูกตัวเองได้ น้องก็เหมือนลูกพี่เอคนหนึ่งเพียงแต่พี่เอไม่ได้คลอดแค่นั้นเอง เราก็พยายามหาแนวทางที่ตรงกับเขาให้ดีที่สุด”
ตัวน้องมีนอยด์บ้างไหม ?
“นอยด์อยู่แล้วครับ พี่เอก็อยากให้เขานอยด์เพราะเราเลี้ยงลูกแบบซาดิสต์ อยากให้นอยด์มากๆ จะได้เป็นแรงกดดัน ให้ทะเยอทะยาน พัฒนาฝีมือในสิ่งที่ตัวเองต้องทำ ไม่ให้หยุดอยู่กับที่ครับ”
ขอบคุณข่าวและรูปภาพจาก sanook
