ยกเป็นประเด็นร้อนเขย่าวงการมายา เมื่อ โฬม พัชฏะ นามปาน พระเอกที่มีภาพลักษณ์ดีมาตลอด ออกอาการหลุด ดีด รั่ว คล้ายคนมึนเมาจนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก งานนี้ บันเทิงไทยรัฐออนไลน์ เปิดใจจากปาก ศสา พิมพสรณ์ ชีวภาคย์โสภณ ผู้จัดการส่วนตัวของ โฬม ถึงเรื่องราวทั้งหมดที่เกิดขึ้น
อยากให้ พี่ศสา เล่าเหตุการณ์วันนั้นอย่างละเอียดอีกครั้ง
“ขอเริ่มที่การออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนนะ เหตุการณ์ในวันนั้นเป็นอย่างนี้ ตอนแรกทางเราก็แจ้งไปแหละว่าโฬมไม่ค่อยสบาย แต่ทางผู้จัดงานเขาก็มาคุยว่าขอให้ออกไปให้สัมภาษณ์เรื่องมูลนิธิโสสะได้มั้ยสั้นๆ ทางงานเขาก็แจ้งว่าขอเถอะครับเพราะเป็นงานประมูลเพื่อเอาของไปให้กับมูลนิธิเด็กโสสะแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชินูปถัมภ์ พอพูดคำนี้เราก็โอเค ได้แต่ขอว่าสั้นๆ นะเพราะไม่ไหวจริงๆ โฬมไม่สบาย ง่วงมาก
แล้วโฬมก็ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนเริ่มงาน แต่ ณ ตรงนั้นไม่มีใครรู้ว่าโฬมกินยานอนหลับรวมทั้งพี่ด้วย ทุกคนรู้แค่ว่าเขากินยาแก้อักเสบ ยาแก้แพ้ ยาคลายกล้ามเนื้อ เรื่องที่กินยานอนหลับมาโฬมเองเขาไม่ได้บอกใคร เขาไม่อยากให้คนอื่นต้องมากังวลเรื่องเขา จริงๆ แค่ 3 ตัว แก้แพ้ แก้อักเสบ คลายเส้นก็หนักแล้ว แต่ถามว่าจะทำให้เบลอขนาดนี้มั้ยคือไม่ มันแค่ทำให้ง่วง แต่ของโฬมวันนั้นคือเบลอจากเอฟเฟกต์ของยานอนหลับ ซึ่งพี่ถามหมอแล้วหมอบอกว่าแน่นอนที่ต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว เพราะพอเราทานเข้าไปแล้วฤทธิ์ยาเพิ่งมาออกมันก็ทำให้เบลอและมีอาการลิ้นแข็ง มีอาการพูดไปแล้วจำไม่ได้ คอนโทรลน้ำเสียงไม่ได้ ภาพของเขาก็ออกมาอย่างที่เห็นตามข่าว
พอให้สัมภาษณ์เสร็จพี่ก็ยอมรับว่าเครียด เอาไงดี ก็หันไปถามโฬมว่าไหวมั้ย เขาก็ตอบว่ามึนมาก โฬมง่วง แต่พอทีมงานมาตามไปบล็อกกิ้งบนเวทีเขาก็ลุกขึ้นไปบล็อกกิ้ง ซึ่งตกลงกันว่าจะมีฟินาเล่รอบเดียว แต่พอขึ้นไปด้วยแสงไฟ ด้วยแสงเลเซอร์บนเวที คนมันง่วงมาก โฬมก็อยู่ในสภาพจะหลับคาเวที เดินฟินาเล่จบก็มีการประมูลอีก ทั้งหมดเป็นการควบคุมสถานการณ์ที่อยู่เหนือความคาดหมาย ซึ่งน้อมรับเลยว่าตัวพี่เองทำได้ไม่ดี พี่เจอหลายคนด่าเลยว่าทำไมไม่ดึงน้องออกมากลางคันเลย เราก็น้อมรับว่าตัดสินใจไม่ดีพอ
พอหลังจากเกิดเรื่อง เรามานั่งคุยกันว่าเกิดอะไรขึ้น ทำให้รู้ว่าวันที่มีงานนั้นตอนเช้าประมาณ 7 โมง โฬมกินยานอนหลับเพราะมีงานตอนเย็นไง กะว่ากินเช้าก็น่าจะหลับยาวถึงเย็น จะได้ไม่ต้องมาตื่นตอนกลางวัน อยากหลับสนิทเต็มที่ แต่กินไปเสร็จก็ไม่หลับ เที่ยงเขาก็เลยกินไปใหม่ไปอีก 2 เม็ด เท่าที่จำได้ ยานอนหลับเขาเม็ดละ 0.25 มิลลิกรัม
อันนี้ต้องขอเล่าย้อนถึงเหตุการณ์ก่อนถึงงาน โฬมกินยานอนหลับไปตอนเที่ยงก็เริ่มมาง่วงหลับตอนบ่าย 3 และตื่นมาแต่งหน้าตอน 4 โมง ออกเดินทาง 5 โมงครึ่งไปถึงงานเกือบทุ่ม ระหว่างทางเขาก็หลับสนิทมาบนรถ ตัวพี่ไม่รู้ว่าเขาอัดยานอนหลับเข้าไป ก็คิดว่าเกือบ 2 ชั่วโมงน่าจะพอหายง่วง
ลงมาจากรถเขาก็งัวเงียบอกว่าโฬมง่วงจังเลย ศสา โฬมไม่ไหว พี่ก็เลยบอกว่างั้นกลับบ้านเลย แต่โฬมเขาก็รีบบอกไม่เป็นไรๆ มาทำงานตั้งไกลแล้วทำไปเถอะ แล้วเดี๋ยวมีประมูลของอีก ไหวๆ โฬมไหวอยู่ เดี๋ยวเอาสเปรย์น้ำแร่มาพ่นหน้า แล้วได้ทานอะไรหน่อยน่าจะดีขึ้น พอเข้าไปในห้องที่ทางงานจัดให้โฬมก็ไปหลับที่โซฟา ซึ่งเป็นเรื่องปกติของโฬม เขาจะบอกว่าขอไปพักสายตาหน่อย แล้วพอถึงเวลาขึ้นเวทีเขาก็ขึ้นของเขาได้ปกติทุกครั้ง 10 ปีที่ผ่านมา เขาเปิดสวิตช์ได้ตลอด แต่ครั้งนี้มันดันไม่ได้เป็นอย่างที่เคยเป็นกันมา
วันนั้นที่ลงจากเวทีพี่ก็ถามเขาว่าโฬมๆ เป็นอะไร เขาบอกว่ามันง่วง เขาพูดอย่างเดียวว่าง่วงจริงๆ พี่ก็เลยถามว่าแล้วทำไมถึงง่วงขนาดนี้ไม่เห็นเคยเป็นขนาดนี้ เขาถึงบอกว่าเขากินยานอนหลับมา เราก็ถามว่าทำไมไม่บอก เขาก็บอกว่าบอกเดี๋ยวก็จะกังวลกันอีก พอถึงบ้านภาพที่เห็นก็คือโฬมลงไปนอนที่โซฟา น็อกหลับทั้งชุดทั้งรองเท้าเลย
ซึ่งวันนั้นถึงบ้านตีหนึ่ง ตีห้าต้องตื่น เพราะตีห้าครึ่งรถกองละครจะมารับไปถ่ายละครที่ราชบุรีต่อ พี่ยังถามเขาว่าขอยกกองมั้ย เขาก็บอกไม่เป็นไร ไหว ชีวิตโฬมมันเป็นอย่างนี้มาอยู่แล้วเขาโอเค ได้หลับ 3 ชั่วโมงโอเคขึ้นแล้ว วันนั้นสรุปออกไปตี 5 ถ่ายละครเสร็จตี 1 กว่าๆ ของอีกวัน ถึงบ้านตี 3 ครึ่ง กลับมาถึงน็อกอีก เลยต้องแคนเซิลงานโชว์ตัวที่จะมีรุ่งขึ้น พี่ก็จัดหาดาราท่านอื่นให้เรียบร้อย เจ้าของงานก็โอเคเข้าใจ”
วันนั้นตอนให้สัมภาษณ์โฬมมีอาการดูหลุดๆ หลายอย่าง พี่ศสา อธิบายถึงสิ่งที่เกิดขึ้นได้มั้ยคะ
“เริ่มตรงที่เขาทำเสียงวู้ๆๆๆๆๆ พี่บอกเลยว่าคนใกล้ชิดทุกคนรู้หมดว่าโฬมเขาชอบทำอย่างนี้ แต่ไหนแต่ไรแล้วเขาทำเป็นประจำ เป็นการวอร์มเสียง วอร์มร่างกายของเขา อันนี้ไม่ได้แก้ตัวใดๆ บอกจากความสัตย์จริง แต่ด้วยท่าทางวู้ๆๆๆ อันนั้นของเขาคนก็บอกว่าเมาชัวร์ เพราะโฬมไม่เคยมีภาพนี้ วันนั้นตอนสื่อสัมภาษณ์เขาก็บอกว่ากินยาแก้อักเสบ กินยาคลายเส้นตีกันมั่วไปหมด ก็เลยเป็นว่าเขาโกหก กินยาแก้อักเสบจะเป็นอย่างนี้ได้ยังไง เมายาชัวร์ คือโฬมเขาก็ดันไม่ได้พูดว่ากินยานอนหลับเข้าไป พูดตรงๆ ว่าอยู่ในชีวิตการทำงานมา ถ้าคนที่เมายามันจะไปทำงานได้ยังไง พี่ก็คงไม่ปล่อยเขาออกมา
ต่อมาที่เห็นโฬมรัวปาก ร.เรือ กระดกลิ้นรัวๆ อันนี้คนที่สนิททุกคนก็เห็นมาแต่ไหนแต่ไร เวลาใครโทรหาถ้าสนิท เขารับเขาก็จะบอกฮัลโหล (กระดกลิ้นรัวๆ) ส่วนคำผวนเนี่ยโฬมก็ชอบผวนอะไรทะลึ่งตึงตังอย่างงี้มาตลอด แล้วพอวันนั้นสติเขาไม่เต็มที่ 100 เปอร์เซ็นต์ พอได้ยินคำว่าถอยห่าง เขาก็หันมาถ่าง_อยใส่เลย คือคนใกล้ชิดเห็นการพูดคำผวนทะลึ่งของเขาจนชิน แต่คนข้างนอกเขาไม่ชินไง แล้วด้วยความเป็นดารานักแสดงเรื่องอย่างงี้ก็ไม่ควรพูด แต่สติโฬมตอนนั้นไม่สมบูรณ์เพราะฤทธิ์ยานอนหลับ โฬมเขาก็รู้สึกเสียใจว่าเฮ้ยเราพูดไปได้ไง
อีกอันที่ทำมือขาขวิด ท่าปูขาไขว้เนี่ย เป็นนิสัยที่โฬมทำตลอด นี่ไม่ได้เฟก หรือสร้างภาพนะ เขาชอบทำเหลือเกินท่านี้เนี่ย เขาเคยบอกพี่ว่ามันเหมือนแมลงอะไรในอีสาน แมงคามอะไรของเขานี่ล่ะ แล้วพอเขาง่วงสติไม่เต็มร้อย เขาก็เลยเอาพฤติกรรมตรงนี้ที่เขาชินออกมาทำ
ทั้งคำผวน ทั้งกระดกลิ้น ทั้งทำมือโชว์ขาขวิดเนี่ยพี่บอกเลยเป็นเรื่องปกติที่พี่ชิน แต่อาการอื่น ลิ้นแข็งพวกนี้มันเกิดจากฤทธิ์ยานอนหลับ คุณหมอก็บอกว่ามันเกิดขึ้นได้ พี่จำคำภาษาอังกฤษที่คุณหมอบอกไม่ได้ มันเหมือนกับว่าการกินยานอนหลับแล้วสติมันไม่เต็ม มันต้องการนอนมาก จะมีเอฟเฟกต์ต่อลิ้น หมอบอกว่ามันจะรั้งลิ้นลงไป ทำให้ลิ้นแข็ง”
เพราะอะไร โฬม ถึงต้องพึ่งยานอนหลับหนักขนาดนี้
“ชีวิตดาราถ่ายละคร คิวละครก็รู้กันอยู่ว่า 7 โมงเช้าถึง 4 ทุ่ม บางครั้งโลเกชั่นต่างจังหวัดต้องตื่นมาเดินทางตั้งแต่ตี 4 ตี 5 นี่คือชีวิตนักแสดงที่มีงานละครเป็นงานหลัก เขาทำงาน 7 วันอย่างงี้มา 10 ปี นอกจากบางช่วงอาจได้พักบ้าง ซึ่งคำว่าเลิก 4 ทุ่มก็ต้องมีเลทบ้าง 5 ทุ่ม เที่ยงคืน บางทีเลยไปเป็นตี 1 กว่าเขาจะถึงบ้าน
ซึ่งที่อธิบายเพราะนี่คือวงจรการทำงานที่หนักมากของโฬม แต่มันคืออาชีพของเขา โฬมก็รักงานเขา การเป็นนักแสดงคืออาชีพที่เขาต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเองและครอบครัว เขาจะไม่ทำมันก็ไม่ได้ แต่มันก็มีวันที่ได้พักบ้างแต่จะนานๆ ที เช่นถ่ายวันนี้หมดคิวเขาแล้ว โลเกชั่นหมดแล้ว แต่ถ้าร่างกายไม่ไหวจริงๆ บอกกองเขาได้ เขาก็ยกคิวเราออก ทุกสิ่งทุกอย่างมันยืดหยุ่นได้หมด แต่ธรรมชาติของโฬมเขาเป็นคนทำงานทุ่มเท ไม่อยากให้ใครมาลำบากเพราะเขาไม่ไหว ถึงไม่ไหวเขาก็กัดฟันจนไหวหมด
แล้วพอกลับถึงบ้านดึก เช้าต้องตื่นไปถ่ายละครต่อ ตัวโฬมเองเป็นคนนอนไม่ค่อยหลับ แต่ต้องรับผิดชอบงาน ก็เลยกินยานอนหลับเพราะอยากให้ตัวเองหลับลึกๆ พักผ่อนเต็มที่ ซึ่งกินมาระยะหนึ่งแล้ว จนมันคงมีอาการดื้อยา เขาก็เพิ่มปริมาณเพื่อให้ตัวเองหลับลึกพักผ่อนเพียงพอ
หลังจากเหตุการณ์ที่เกิด เราก็มานั่งคิดกันว่าทำไมร่างกายถึงน็อกได้ขนาดนี้ ก็ไปปรึกษาคุณหมอ ตัวโฬมเองเขาบอกว่าวันนั้นเขาง่วงจนไม่ไหวแต่เขาไม่ได้แจ้งใคร ไม่อยากให้การทำงานต้องลำบาก โฬมเป็นคนทำงานแล้วทุ่มสุดๆ ต้องทำให้ได้ตามที่ลูกค้าบอก นี่คือสิ่งที่เขาเป็นมาตลอด แล้วการเป็นผู้จัดการไม่มีใครหรอกค่ะที่จะให้นักแสดงออกไปเมื่อไม่พร้อม แต่ก็น้อมรับว่านี่เป็นประสบการณ์ครั้งสำคัญ ถ้าต่อไปเห็นน้องเป็นแบบนี้เราต้องระมัดระวังให้ดี ถ้าต่อไปเราเห็นแล้วว่าเด็กเราไม่ไหวต้องเคลียร์คัตเลยว่าไม่ พี่ยอมรับว่าผิดเองที่เราเกรงใจคนอื่นมากไป ต่อไปเราต้องยอมเสีย ยอมรับจริงๆ ว่าเราไม่เคยเจอ โฬมเองปกติบอกว่าไหวเขาก็คือไหว เขาเองยังงงเลยว่าทำไมครั้งนี้เขาเป็นหนักขนาดนี้”
ตอนนี้อาการ โฬม เป็นอย่างไรบ้าง
“หลังจากวันงานที่เกิดเรื่องกลับบ้านตีหนึ่ง ตื่นไปถ่ายละครตีห้ายันตีหนึ่งของอีกวันจนต้องแคนเซิลงานโชว์ตัวที่รับไว้ วันนั้นก็ให้เขานอนพักผ่อนทั้งวัน แล้วก็มานั่งปรึกษากันว่า เราจะต้องพาไปโรงพยาบาลดีกว่าเพื่อให้น้ำเกลือ-วิตามิน ให้เขาได้พักจริงๆ
ไปถึงปรึกษาคุณหมอ หมอก็บอกเลยว่าโฬมต้องได้รับการปรับวิธีการนอน ซึ่งคุณหมอเขาก็มีวิธีการปรับของเขา แต่ตอนนี้พี่ยังขอให้เขาพักผ่อนอย่างไพรเวทก่อน ยังไม่อยากบอกชื่อโรงพยาบาล เพราะถ้าบอกไปเดี๋ยวก็ต้องมีคนมาเยี่ยม ขอเอาของไปให้หรือมาขอสัมภาษณ์ ตรงนี้เราขออนุญาตหยุดไว้ก่อน รอให้อาการการหลับเขาดีขึ้น เดี๋ยวโฬมจะออกมาพูดเอง แต่ยังบอกไม่ได้นะว่าเมื่อไหร่ เพราะเคสโฬมหมอบอกเลยว่านี่เป็นอาการนอนไม่หลับที่ค่อนข้างจะต้องใช้เวลารักษา เพราะว่าฟังก์ชั่นระบบประสาทคนเราไม่เหมือนกัน บางคนรักษาเร็วบางคนรักษานาน”
แนวทางการรักษา โฬม ให้ดีขึ้นต้องทำอย่างไร
“แนวทางการรักษาเท่าที่คุยกับหมอ หมอเขาจะปรับระบบการพักผ่อน อย่างเช่นตอนนี้นอนนะ ต่อไปคือเวลาตื่นนะ นี่คือเวลาต้องกินข้าวนะ ยากอยู่เหมือนกัน แต่ต้องปรับฟังก์ชั่นเขาให้ดี เพื่อให้เขาหลับตอนกลางคืนให้ได้ ตอนนี้พี่เองก็อยู่โรงพยาบาล กำลังใจเขาดี ครอบครัวเขาก็อยู่รายล้อม คุณแม่ พี่สาว เพื่อนที่สนิทก็มาเยี่ยมทุกวัน กำลังใจสำคัญนะตอนที่เขาดูข่าวเขาก็ตกใจว่าตัวเองทำอะไรลงไป
หลังเกิดเรื่องทุกคนก็เสียใจหมดแหละ แต่จะให้มานั่งซ้ำเติมกันมันก็ไม่มีประโยชน์ ทุกวันนี้ก็ให้เขารักษา พักผ่อนที่โรงพยาบาล นอน ตื่น กินข้าว ทานยา ให้น้ำเกลือ อยู่ในการดูแลของคุณหมอตลอด คุณหมอก็บอกว่าเขาน่าจะดีขึ้น แต่ตอนนี้เขาต้องการพักผ่อนจริงๆ เพราะระบบร่างกายเขาเออเร่อ เหมือนคอมพิวเตอร์ที่แฮงก์ เราก็ต้องมารีเซตกันใหม่ ก็น่าจะต้องอยู่โรงพยาบาลสักอีก 2-3 วัน นี่เขาอยู่มาแล้ว 3 วัน”
สภาพจิตใจ โฬม โอเคมั้ยคะ
“ปกติค่ะ เพราะคนนี้เขาเป็นคนโพสิทีฟอยู่แล้ว มองอะไรบวกเสมอ เขาก็ได้แต่หวังว่าคนจะเข้าใจ ถ้าหายดีเดี๋ยวโฬมจะออกมาพูด ขอให้โฬมพร้อมร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงแล้วกลับมารีเฟรชเหมือนเดิม โฬมจะให้สัมภาษณ์
10 ปีที่ผ่านมาโฬมเป็นคนดีมาตลอด เขาไม่เคยมีข่าวอะไรที่ไม่ดีออกมา การทำตัว การรับงาน แสดงละคร เขาสู้มาโดยตลอด และเขาก็รักในอาชีพเขา พี่เองดูแลน้องมาตั้งแต่แรก เขาไม่เคยมีปัญหาและก็ไม่ได้มีความเครียด สบายๆ เอาอย่างนี้ดีกว่าตั้งแต่พี่ดูแลเขามาเขาไม่เคยว่าใครหรือบ่นเวลาต้องทำงานไหนเลย เขาไม่ได้เป็นคนทะเยอทะยานว่าผมจะต้องดังต้องไปให้ถึงจุดนี้ๆ ละครผู้ใหญ่ให้เล่นอะไรไม่เคยปฏิเสธ
เขาเป็นคนไม่ได้เรื่องมาก กินอะไรก็กินได้หมด อยู่ในกองไปถ่ายละครไม่เคยมีการเบี้ยวอะไร แต่เหตุการณ์ครั้งนี้ก็ทำให้รู้ว่าล้มแล้วไม่เป็นไร ล้มแล้วเราต้องลุก พี่บอกโฬมว่าเขาเป็นคนดี พระต้องคุ้มครองให้เรื่องราวผ่านไป”
ช่อง 3 ได้เรียกเข้าไปคุยหรือยัง
“ไม่เลยค่ะ ผู้ใหญ่ก็โทรมาคุยให้กำลังใจปกติ ผู้ใหญ่ทุกคนอยากให้โฬมพักผ่อนเยอะๆ”
ตัว พี่ศสา ก็โดนวิจารณ์อ่วมว่าปล่อยให้เกิดเหตุการณ์อย่างนี้กับดาราที่เราดูแลได้อย่างไร
“พอเห็นเขาเป็นอย่างนั้นพี่ก็น้อมรับผิดทุกอย่าง ประสบการณ์ผิดพลาดครั้งนี้ของพี่มันยิ่งใหญ่มาก พี่สงสารโฬม เขาเสียหายมาก เราเป็นผู้จัดการเขาควรเฉียบขาด ใจแข็ง พี่ควรจะรอบคอบกว่านี้ เราจะมาเอามาตรฐานเดิมคิดว่าเขาเคยง่วงแบบนี้แต่เขาไหวไม่ได้ พี่ผิดที่ไม่มีความเด็ดขาดบอกไปเลยว่าพี่ไม่ให้สัมภาษณ์
ถ้าเหตุการณ์ในวันนี้มันทำให้คนรับโฬมไม่ได้ พี่ขอน้อมรับผิดแทน ตัวโฬมเองพี่ไม่อยากให้คิดมาก เพราะยังคงต้องทำงานปกติ คนเรามันพลาดได้แต่มันก็คงต้องใช้เวลานิดนึงที่จะทำให้ภาพที่เสียของเขามันถูกลบเลือนไป เราก็มีหน้าที่ต้องสู้กันต่อไป
ตัวพี่เองก็โดนวิจารณ์เยอะมาก โยงไปว่า มิน่า คิมเบอร์ลี่ (คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ) ไม่อยู่ด้วย หาว่าพี่โกง คือจะบอกว่าไม่มีเลยเรื่องการโกง ทุกวันนี้ก็ยังเป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน คิมเขาให้ทางช่องดูแลแต่มีอะไรพี่ก็ยังประสานให้อยู่
พี่เสียใจนะที่เกิดเหตุการณ์อย่างนี้ขึ้น แต่ก็ไปว่าใครเขาไม่ได้ ถือเป็นบทเรียนว่าถ้าไม่พร้อมเราไม่ควรออกจากบ้านเลย”
เอาเป็นว่านี่คือเรื่องจากปากของ “พี่ศสา” ผู้จัดการส่วนตัว เมื่อถึงเวลาที่ “โฬม” พร้อม เราจะได้ฟังคำเปิดใจถึงเรื่องราวทั้งหมดจากปากเขา แต่จุดนี้ “บันเทิงไทยรัฐออนไลน์” ขอส่งกำลังใจไปให้ “โฬม” นะจ๊ะ
