เรื่องย่อละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 7

446
โป๊ป ธนวรรธน์

บทประพันธ์ : นิตินันท์, วรรณพร, นิพล
บทโทรทัศน์ : สมภพผูกพันน้อย
กำกับการแสดง : คิง-สมจริง ศรีสุภาพ
แนวละคร :
ผลิต : บริษัท กู๊ด ฟีลลิ่ง จำกัด

เรื่องย่อละคร รักออกฤทธิ์ ตอนที่ 7

วลัยนัดวนิษามาทานอาหารที่ร้านหรู วนิษามาถึงแล้วจึงรู้ว่าวลัยหาคู่ให้ตนอีกแล้ว เพราะวลัยนัดกริช พระเอกหนุ่มไฮโซรูปงามฐานะดีมีความสามารถมาด้วย

วนิษาบ่นเบื่อๆว่า “อีกแล้วนะแม่ หนูบอกแล้วไงว่าอย่าทำแบบนี้กับหนูอีก หนูกลับล่ะ”

พอดีกริชมาถึง วลัยเรียกแล้วแนะนำทั้งสองให้รู้จักกัน แล้ววลัยก็อ้างเหตุผลที่นัดมาทานอาหารกันว่า เพราะกริชสนใจโรกิจตลาดเลยให้มาปรึกษากันดูเพราะวนิษาดูแลตลาดของตระกูลวาสุวงศ์อยู่ ส่วนกริชก็แนะนำตัวเองว่า

“ตอนนี้ผมทำรีสอร์ตอยู่ที่ต่างจังหวัด ยังมีที่ดินเหลืออีก อยากบุกเบิกด้านนี้บ้าง” กริชชิงพูดเพื่อกันไม่ให้วนิษาปฏิเสธว่า “ยังไงผมขอบคุณล่วงหน้านะครับ”

ทานอาหารและคุยกันแล้ว ระหว่างเดินออกมา วลัยกระซิบถามวนิษาว่าอึ้งเลยใช่ไหมที่แม่พาพระเอกคนโปรดมา วนิษาบอกว่าเป็นพระเอกคนโปรดแต่ไม่ได้แปลว่าอยากให้แม่พามาจับคู่ให้แบบนี้ วลัยพยายามหว่านล้อม บอกว่ากว่าตนจะตีสนิทตะล่อมนัดกินข้าวกันได้นึกว่าง่ายนักหรือ แล้วหยอดถาม “ไง…น่ารักดีไหม”

กริชเดินมาหยุดรอตรงใกล้ทางออก โจรออยู่แถวหน้าประตู พอเห็นวนิษาเดินมาก็มารอใกล้ๆ วนิษาบอกแม่ว่านั่นคือดาวคนขับรถของตนและบอกดาวว่านี่แม่ตน วลัยถามว่าเดี๋ยววนิษาจะพากริชไปดูตลาดเลยไหม เธอไม่ขัดข้อง วลัยจึงสั่งโจให้ขับรถไปส่งตนที่บ้านเพื่อน วนิษางง ถามว่าแล้วตนล่ะ

“ลูกก็ไปรถคุณกริชสิคะ ถามได้” วลัยตอบยิ้มเป็นนัย วนิษาพูดไม่ออก ส่วนกริชก็ผายมือเชิญอย่างสุภาพ

“ถ้าไม่รังเกียจก็เชิญครับ”

พอวลัยขึ้นรถก็ถามโจว่า ขับรถให้ลูกสาวตนเห็นผู้ชายที่ไหนมาจีบบ้างไหม โจบอกว่ามีบ้างแต่ไม่เห็นวนิษาสนใจใคร วลัยยิ้มพอใจถามต่อว่า เมื่อกี๊เจอกริชตื่นเต้นไหม โจไม่ตอบแต่ถามว่า “เขาเป็นใครหรือครับ”

วลัยพูดอย่างภูมิใจว่าเขาเป็นพระเอกละคร บ้านไฮโซ รวยมาก” โจถามว่ายังไม่มีแฟนหรือ วลัยบอกว่าน้อยไปสิ หล่อรวยแบบนี้ผู้หญิงค่อนประเทศมองตาเป็นมัน กริชเลยมีข่าวกับคนนั้นคนนี้ประจำ แต่เท่าที่สังเกตเขาก็ยังไม่มีตัวจริงหรอก

“แล้วถ้าคุณวนิษาเป็นแฟนกับเขา คุณแม่ไม่กลัวดาราสาวๆ พวกนั้นจะเขม่นเอาเหรอครับ”

“มาเล้ย! ฉันก็จะทำหน้าที่แม่ที่ดีให้ดู ใครหน้าไหนมายังไงฉันจะปักหลักซัดไม่มีถอย ด่าเป็นด่า ตบเป็นตบ รบกันได้ทุกมิติ” วลัยประกาศกร้าว จนโจนิ่งไปเลย

ระรินกับเพ็ญแขผู้เป็นแม่ นวดกันอยู่ในสปา ระรินเอารูปบรรดาชายหนุ่มที่พัวพันกับตนอวดแม่ ที่ให้ดูเป็นพิเศษคือกริช มีทั้งรูปไปทานอาหาร ช็อปปิ้ง เที่ยวชายทะเลด้วยกัน

“ยังไงลูกก็อย่าประมาทล่ะ ผู้ชายแบบคุณกริชน่ะมีน้อยจะใช้สอยต้องแย่งกัน ตอนนี้เขาควงกับเธอ ก็รักษาตำแหน่งไว้ให้ดี แต่เธอออกตัวมากไม่ได้นะ เดี๋ยวจะดูไม่ดี เล่นบทอ้อนๆดีกว่า บทบู๊น่ะแม่ลุยเอง”

สองแม่ลูกหัวเราะกันคิกคัก มือถือระรินดังขึ้น คุยเสร็จวางสาย เพ็ญแขถามว่ามีอะไรหรือ

“เพื่อนน่ะค่ะ โทร.มาบอกว่าเมื่อกลางวันเห็นสาวสวย คนหนึ่งนั่งรถคุณกริชไปด้วยกัน” เพ็ญแขถามว่าดาราหรือ “ไม่ใช่ดาราค่ะ ยัยวนิษา…ยัยตัวแสบ” เพ็ญแขบอกว่าไม่รู้จัก แต่พอระรินเปิดรูปในมือถือให้ดูก็ของขึ้นทันที

“ว้าย…ยัยนี่เอง ครั้งที่แล้วก็แย่งชายแจ้ไปจากลูกใช่ไหม เสียดายตอนนั้นแม่อยู่เมืองนอก ฮึ่ม! คราวนี้ฉันอยู่นี่ ฉันจะไม่ปล่อยให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยแน่นอนแกเตรียมตัวได้เลย ฉันจะตบแกแถมดอกเบี้ยครั้งที่แล้วให้ด้วย”

ที่หน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง กริชเดินออกมากับวนิษา วนิษาขอบคุณสำหรับมื้อค่ำชมว่าอาหารอร่อยมาก กริชบอกว่าขอให้ถือว่าเป็นการตอบแทนที่เธอให้ความรู้ตนก็แล้วกัน

วนิษาพูดออกตัวว่าตนรู้แค่พื้นๆ ถ้าเขาอยากรู้ลึกรู้จริงเดี๋ยวจะแนะนำกูรูให้ กริชรีบบอกว่าไม่เป็นไรคุยกับเธอดีกว่าเพราะ “คุณเป็นคนคุยสนุก ผมคุยด้วยแล้วสบายใจ ถ้าเจอกูรูเดี๋ยวผมจะเครียดซะเปล่าๆ”

กริชกำลังจะนัดพบกันคราวหน้า ก็มีเสียงแตรรถกดเรียก กริชถามอย่างผิดหวังว่าเธอเรียกคนรถมารับหรือ วนิษาบอกว่าไม่อยากรบกวนเขาแล้วขอตัวเลย พอวนิษาขึ้นรถโจก็ขับออกไปเลย กริชมองตามบ่นเซ็งๆ

“คนขับรถบีบแตรเรียกเจ้านายเนี่ยนะ คุณวนิรับคนแบบนี้มาทำงานได้ไงเนี่ย”

กริชไม่ทันขยับไปไหน ระรินกับเพ็ญแขก็มาถึง พอระรินลงจากรถก็มองซ้ายมองขวาเหมือนหาอะไร แต่เมื่อไม่พบก็ชวนกริชเข้าไปแนะนำอาหารอร่อยของร้านทานกันข้างใน กริชบอกว่าตนเพิ่งแยกกับเพื่อนเมื่อกี๊นี้เองแล้วขอตัวไปเลย

“ยังไม่ทันไรเลย แกโดนเชี๊ยะแล้วเหรอเนี่ย” เพ็ญแขบ่น ในขณะที่ระรินโกรธจนตัวสั่น

ส่วนวนิษาพอขึ้นรถก็ถามโจว่าใครสั่งใครสอนให้บีบแตรเรียกกันแบบนี้ โจชี้แจงหน้าซื่อๆว่า ก็เธอสั่งไว้ว่า ถ้าเห็นใครมาจีบตนให้ช่วยขัดขวาง

“ก็ใช่ แต่ให้มันมีมารยาทบ้าง อย่าให้มันน่าเกลียด” โจอ้างว่าตนความจำเสื่อม “ที่ผ่านมาคุณรู้จักหยุดรถให้คนข้ามถนน รู้ว่าขับช้าต้องอยู่เลนซ้าย แล้วทำไมอยู่ดีๆ ต่อมมารยาทมันต้องมาเสื่อมเอาเมื่อกี๊นี้ด้วย”

โจตอบซื่อจนเหมือนกวนๆ ว่าต้องไปถามหมอ เลยถูกผลักเบาะหนุนคอแรงๆ กระแทกท้ายทอยจนโจร้องโอ๊ย ถามว่าทำอะไร?

“ไม่ต้องบ่น ขับไป” วนิษาสั่ง ค้อนให้ทีหนึ่งอย่างหมั่นไส้

ตกกลางคืน กริชส่งไลน์มาคุยด้วย วนิษาจะส่งข้อความกลับแต่เหลือบเห็นรูปคุณชายแจ้กับตั่วเฮียบนโต๊ะเครื่องแป้งก็เปลี่ยนใจไม่ส่ง กริชยังส่งมาถามโน่นถามนี่ วนิษาลังเลว่าจะตอบดีไหม จนสุดท้ายเขาบอกว่ามีเรื่องรบกวน ขออนุญาต วนิษาจึงตัดสินใจตอบ ถามว่า “เรื่องอะไรคะ?”

“ขออนุญาตฝันถึงคุณวนิครับ จะได้ฝันดีไงครับ”

วนิษาบ่นกับมือถือว่า “คุณกริช คุณอย่าหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัวเลยค่ะ” กริชก็ยังส่งข้อความมาขออนุญาตอีก เธอพูดกับมือถืออีกว่า “ขอโทษนะคะ คุณดูเป็นผู้ชายที่ดี อยู่ห่างๆฉันเถอะค่ะ” กริชรอนานจนแน่ใจว่าเธอไม่ตอบก็บ่น

“ใจแข็งจริงนะครับคุณวนิ รู้ตัวบ้างไหมว่ายิ่งเล่นตัวแบบนี้มันยิ่งเร้าใจ” เปิดดูรูปวนิษาในนิตยสารแล้วจูบรูปไปหลายฟอด “อยากจูบตัวจริงจังเลยโว้ย คุณวนิษา คุณฮอตมาก ถ้าผมได้คุณเป็นเมียนะ…ฮึ่ม…” กริชมองรูปอย่างมันเขี้ยว

ป๋องไม่ได้ไปดูคอนเสิร์ต แต่วันนี้บังเอิญจริงๆ ที่ปลายฝนกับเพื่อนๆไปกินอาหารร้านที่ป๋องไปเป็นพนักงานเสิร์ฟ ปลายฝนทักทายกันอย่างสนิทสนม

ระหว่างนั้นเพื่อนมาเตือนให้รีบเลิกคุยเสียคนอื่นมาเห็นไม่ดีที่ไปสนิทสนมกับเด็กเสิร์ฟ ปลายฝนถามว่าทำไมหรือ บอกว่าป๋องเป็นเพื่อนที่ตนเคยซื้อบัตรคอนเสิร์ตให้ถามว่า “จะคบเพื่อนต้องแคร์สายตาคนอื่นด้วยหรือ” เพื่อนคนนั้นเลยไม่กล้าพูดอะไรอีก ปลายฝนบอกป๋องว่าอย่าโกรธนะ เพื่อนตนพูดไม่ทันคิด

“ไม่เป็นไรหรอก เราไม่ถือ พวกติ่งก็งี้แหละ” ป๋องดูถูกคืน ปลายฝนทำหน้าตึงบ่นว่าบอกแล้วว่าอย่าเรียกติ่ง ป๋องถามว่าไม่เรียกติ่งแล้วจะให้เรียกว่าอะไร ปลายฝนสั่งให้ขอโทษตนกับเพื่อนเดี๋ยวนี้ ป๋องไม่ยอมเพราะทีพวกเธอดูถูกตนยังไม่ขอโทษเลย ปลายฝนบอกว่าเพื่อนตนพูดโดยไม่ตั้งใจ พูดอย่างเอาเรื่องว่า “ได้…เจอกัน”

ผลคือป๋องถูกเพื่อนๆของปลายฝนรุมกันจับแปลงโฉมเป็นวงเกิร์ลกรุ๊ปเกาหลีพาไปบังคับให้เต้นท่าเกิร์ลกรุ๊ปแล้วถ่ายคลิปไว้ ซ้ำยังเอาไปโพสต์ลงในเน็ตด้วย

เมื่อป๋องกลับบ้านเปิดดูทั้งอายทั้งเจ็บใจบอกกับตัวเองว่างานนี้ต้องหาทางเอาคืนให้สาสมแน่ๆ

ระหว่างเปิดดูคลิป โจเข้ามาทำเอาป๋องปิดแทบไม่ทัน โจถามว่าประวัติกริชที่ให้สืบเป็นยังไงบ้าง

ป๋องสาธยายยืดยาวแต่เป็นกระพี้เสียส่วนใหญ่จนโจถามว่าจะนอกเรื่องไปถึงไหน ป๋องจึงเข้าเรื่องทิ้งกระพี้เอาแก่นมาเล่าว่า

“อย่างอื่นก็ไม่มีอะไรแล้ว เขาเป็นคนดีเลยไม่มีเบื้องหลังอะไรมาก เรื่องคาวๆกับผู้หญิงคนนู้นคนนี้

ส่วนใหญ่ก็ผู้หญิงปล่อยข่าวเอง ความจริงนายกริชเป็นสุภาพบุรุษคนนึง”

“งั้นเราคงต้องรีบกระชากหน้ากากคุณวนิษาให้เร็วที่สุด เพราะตอนนี้คุณกริชคนดีของแกทำท่าจะปิ๊งคุณวนิษา ถ้าเราลงมือช้าไป ทั้งสองอาจจะถึงขั้นแต่งงานกัน แล้วกริชคนดีของแกก็คงไม่รอด”

“เจออาถรรพณ์ดวงกินผัวใช่ไหมครับ”

“ป๋อง ฉันบอกแกกี่ครั้งแล้ว อาถรรพณ์ไม่มีจริง ทุกอย่างเกิดจากเจตนาของคน”

พูดแล้วโจสะพายเป้ชวนป๋องออกไปข้างนอกกัน

โจไปที่ร้านส้มตำของซูซี่เพื่อนที่รู้จักกับพ่อของโจในคุกและพ่อฝากให้ช่วยแหลือเพราะถูกภัยมืดคุกคามจนต้องปลอมตัวเป็นกะเทยเปลี่ยนชื่อเป็นซูซี่

แต่ที่ร้านปิดเหมือนร้าง โจเข้าไปกับป๋องตรวจสภาพหาสิ่งผิดสังเกต เจอแต่สากกะเบือที่หนักผิดปกติเพราะมันเป็นสากกะเบือทองเหลือง! เมื่อไม่มีอะไรผิดสังเกตจึงพากันออกไป โจเผลอถือสากกะเบือทองเหลืองติดมือไปด้วย

ออกมาถึงตรอกแคบๆ จึงเจอซูซี่ที่ซุ่มซุกตัวอยู่แถวกองเข่งกองลังกระดาษ บอกว่าต้องหลบเจ้าหนี้เลยต้องพบกันหลบๆซ่อนๆ เพราะกลัวคนอื่นเดือดร้อนไปด้วย โจถามอย่างสมเพชว่า

“หนีตำรวจยังไม่พอยังไปกู้พวกดอกโหดอีกหรือ” บอกซูซี่ว่า “เรื่องของคุณผมเพิ่งเริ่มสืบ ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้าอะไรหรอกนะ” ซูซี่บอกว่ารู้แล้ว ที่ตามมานี่จะให้ช่วยเรื่องอื่นต่างหาก “เรื่องอะไร บอกก่อนนะ ถ้าจะยืมเงินเลิกพูดไปเลย”

“ไม่ยืมหรอกน่า” ซูซี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ “แค่อยากจะรู้ว่านายเป็นตัวซวย อภิมหาซวย ซวยล้นฟ้าจริงรึเปล่าเท่านั้นเอง”

โจหน้าบึ้ง ด่าซูซี่ด้วยสายตาอย่างรุนแรง

งานทดสอบครั้งนี้ ซูซี่ให้โจปลอมตัวเข้าไปในบ่อนของเสี่ยเพ้ง โจเสียความรู้สึกมากที่ โจแอ๊บพันหน้า ปลอมตัวเข้าบ่อนรู้ถึงไหนอายถึงนั่น แต่ต้องตกกระไดพลอยโจน

ปรากฏว่าความซวยของโจยังขลัง เพราะเขาไปกับซูซี่ครั้งนี้ทำเอาเสียเพ้งเจ๊งไปยี่สิบกว่าล้าน พอออกมานับเงินแบ่งกันยังไม่ทันเสร็จดี ลูกน้องเสี่ยเพ้งก็มาตามทวงเงินคืน ต่างพุ่งเข้าตลุมบอนกัน แต่ฝ่ายโจมีกันแค่สองคน ลูกน้องเสี่ยเพ้งมากันเป็นฝูง โจคว้าไม้ได้ท่อนหนึ่งขว้างใส่ลูกน้องเสี่ยเพ้ง มันหลบไม้เลยพุ่งเข้าใส่ตำรวจที่เดินสวนมา น็อกไปคนหนึ่ง อีกคนตะโกน

“เฮ้ย! ลอบสังหารเจ้าพนักงานเหรอ”

แค่นั้นเอง ทั้งโจ ซูซี่ และลูกน้องเสี่ยเพ้งก็แตกกันกระเจิง วิ่งหนีตัวใครตัวมัน ตำรวจเป่านกหวีดไล่ตาม

ลูกน้องเสี่ยเพ้งเข้าไปรายงานเสี่ยว่าตำรวจล้อมบ่อนไว้หมดแล้ว สงสัยว่าพวกที่มาถล่มบ่อนเราแล้วพาตำรวจมาจับอาจเกี่ยวข้องกับแก๊งของเสี่ยป๊อกก็ได้

“ถ้าใช่ละก็…อั๊วไม่เอามันไว้แน่ ยัยตั่วเจ๊” เสี่ยเพ้งคำราม

ตั่วเจ๊หรือวนิษาไม่รู้เรื่องนี้เลย เพราะหม่อมจันกำลังชวนเป็นเพื่อนไปงาน “รินน้ำใจสู้ภัยแล้ง” วนิษาขอพาคุณยายวรางค์ไปด้วย หม่อมจันยินดี จะได้เป็นเพื่อนคุยกัน

หม่อมจันบอกให้ชวนแม่ไปด้วย วนิษาบอกว่าไม่ดีกว่า เพราะพักนี้แม่พยายามจะหาคู่ให้อีกแล้วเลี่ยงได้ก็เลี่ยงดีกว่า

แต่วลัยก็รู้จากเพื่อนที่ไปเสริมสวยในร้านเดียวกันจนได้ ฉวยโอกาสนัดกริชไปงานเดียวกันหมายเซอร์ไพรส์วนิษา

โจขับรถพาวนิษาไปถึงโรงแรมที่จัดงาน เธอบอกว่า

“ระหว่างที่ฉันอยู่ในงาน คุณจะไปหาอะไรนั่งกินในโรงแรมหรือไปสปาก็ได้นะ บอกชื่อฉันไปก็แล้วกัน” โจขอเปิดห้องสวีตนอนสักงีบได้ไหม “ได้…นอนสักงีบแล้วไปนอนยาวๆต่อที่โรงพักแล้วกัน เพราะฉันไม่จ่ายให้แน่ๆ” สุดท้ายวนิษาบอกให้ไปนอนพักในห้องคนขับรถก็แล้วกัน

โจบ่นเสียดาย แล้วออกรถไป มองวนิษาทางกระจกหลัง วนิษาก็หันมองเขาพอดี เธอยิ้มให้เขาแล้วเดินเข้าโรงแรมไป

ในงานมีการนำของมาบริจาค เอาไปประมูลหารายได้ วนิษาเอาไวน์ของเสี่ยป๊อกมาบริจาค หญิงจุ๋มจับตามองอย่างจับผิดว่าเธอเอาแก้วแหวนเงินทองที่เป็นสมบัติของชายแจ้มาบริจาคด้วยหรือเปล่า เตรียมจะเล่นงานแต่มีอะไรให้จับผิดได้ หญิงจุ๋มพูดกับพจน์ว่า

“ยังดีนะที่ยัยวนิษาไม่เอาสมบัติของชายแจ้มาประมูล ไม่อย่างนั้นฉันจะวีนเหวี่ยงให้งานล่มเลย”

พจน์บอกให้ดูดีๆ หญิงจุ๋มบอกว่ารู้จักกับคนจัดงาน ไปขอดูมาแล้วไม่มีรายการ ของวนิษาเป็นไวน์ซึ่งไม่ใช่ของชายแจ้แน่ๆ

“โชคดีไป ของเก่าของคุณชายแจ้น่ะ แต่ละอย่างเป็นของหายากราคาแพงๆทั้งนั้น เอามาประมูลการกุศลแบบนี้เสียดายแย่ เป็นผม เอาไปขายให้เศรษฐีเมืองนอกดีกว่า”

“จะยังไงก็ไม่ได้ทั้งนั้นแหละ สมบัติของตระกูลฉัน ยัยนั่นไม่มีสิทธิ์” หญิงจุ๋มท่าทางเอาเรื่อง

Loading...