หน้าแรก เคล็ดลับน่ารู้

เคล็ดลับน่ารู้

ตาล้า ภัยร้ายที่สร้างปัญหากว่าที่คิด #ยิ่งล้ายิ่งพัง

“ตาล้า” ภัยร้ายที่สร้างปัญหากว่าที่คิด #ยิ่งล้ายิ่งพัง

"ตาล้า" ภัยร้ายที่สร้างปัญหากว่าที่คิด #ยิ่งล้ายิ่งพัง เมื่อเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของเรามากขึ้น ทั้งการใช้งานอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ตลอดเวลา โดยเฉพาะสมาร์ทโฟน และคอมพิวเตอร์ ส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพตาของเรา ปัญหากล้ามเนื้อตาล้า จึงกลายมาเป็นโรคยอดฮิตของคนยุคดิจิทัลอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ สาเหตุหลักของกล้ามเนื้อตาล้าเกิดจากการใช้งานดวงตามากจนเกินไป   โดยจะมีอาการบ่งชี้ที่เกิดจากกล้ามเนื้อตาล้าแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มใหญ่ ๆ ได้แก่ ปวดกระบอกตาจากกล้ามเนื้อตาล้า ซึ่งมักจะเกิดขึ้นจากการใช้สายตาอย่างหนักในการเพ่งมองระยะใกล้เป็นเวลานาน ไม่ว่าจะเป็นการอ่านหนังสือ  การทำงานฝีมือที่ต้องใช้ความละเอียด ตลอดจนการทำงานผ่านหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งกิจกรรมต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนก่อให้เกิดอาการปวดกระบอกตา บริเวณขมับ ไปจนถึงท้ายทอย สายตาสั้นเทียม ภาวะสายตาสั้นเทียมเกิดจากการหดตัวผิดปกติของกล้ามเนื้อเล็ก ๆ ที่อยู่ในลูกตา ปกติกล้ามเนื้อเหล่านี้จะทำงานด้วยการหดและคลายตัวสลับกันอยู่ตลอด การที่เราใช้สายตาในการเพ่งหน้าจอเป็นระยะเวลานาน ๆ อาจส่งผลให้เกิดการทำงานผิดปกติของกล้ามเนื้อตา หรือกล้ามเนื้อตาหดตัวอยู่ตลอดเวลา จนทำให้เกิดสภาวะเหมือนคนสายตาสั้นได้เช่นกัน โรคสายตาที่เกิดจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์ หรือ Computer Vision Syndrome...
รังสียูวีจะแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ ถ้ารู้วิธีป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

รังสียูวีจะแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ ถ้ารู้วิธีป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ

รังสียูวีจะแรงแค่ไหนก็เอาอยู่ ถ้ารู้วิธีป้องกันอย่างมีประสิทธิภาพ อากาศในไทยที่ดูจะร้อนขึ้นทุกปีอาจทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายตัวจนไม่อยากออกไปไหน แต่รู้หรือไม่ว่าสิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าคืออันตรายของรังสีอัลตราไวโอเลต หรือที่เรียกสั้นๆ ว่ารังสียูวี โดยดัชนีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV Index) ในประเทศไทยส่วนใหญ่อยู่ที่ 11-12 ซึ่งเป็นระดับขั้นสูงสุดและส่งผลเสียต่อผิวหนังอย่างมาก สามารถก่อให้เกิดจุดด่างดำ ริ้วรอยบนผิวหนังตามร่างกาย ซึ่งถ้าหากไม่ปกป้องผิวให้ดี ก็อาจจะเกิดการสะสมของรังสียูวีและพัฒนาความรุนแรงจนกลายเป็นมะเร็งผิวหนังได้เช่นกัน ดังนั้นเราจึงควรทำความเข้าใจก่อนว่ารังสียูวีมีอยู่ที่ไหนบ้าง และเราจะสามารถป้องกันตัวเองอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดได้อย่างไร รังสียูวีนั้น มีทั้งหมด 3 ประเภท ได้แก่ รังสียูวีเอ (UVA) ยูวีบี (UVB) และ ยูวีซี (UVC) แต่ที่พวกเราคุ้นหูคือรังสียูวีเอและยูวีบี เนื่องจากรังสียูวีซีไม่สามารถทะลุผ่านชั้นบรรยากาศโลกได้จึงไม่สามารถทะลุมาถึงพื้นผิวโลกเพื่อทำอันตรายต่อผิวของเรา ในขณะที่รังสียูวีเอสามารถทะลุผ่านถึงผิวหนังชั้นกลาง ทำให้เกิดฝ้าและริ้วรอยหากเผชิญกับรังสีนี้เป็นเวลานาน โดยที่รังสียูวีบีส่งผลกระทบต่อผิวหนังชั้นนอกหรือชั้นหนังกำพร้าทำให้ผิวคล้ำและเกิดจุดด่างดำ และเป็นที่ทราบกันดีว่ารังสียูวีนั้นสามารถนำไปสู่การเกิดมะเร็งผิวหนังได้  เมื่อทราบถึงผลกระทบของรังสียูวีที่มีต่อผิวหนังของเราแล้ว หลายคนคงจะปกป้องผิวด้วยการทาครีมกันแดดหรือหยิบร่มมากางก่อนที่จะออกแดด โดยเข้าใจว่าหากอยู่ในที่ร่มแล้วก็ไม่จำเป็นต้องป้องกันแสงแดดแต่อย่างใด  แต่ที่หลายคนอาจจะยังไม่ทราบคือรังสียูวีสามารถทะลุผ่านผนังอาคารเข้ามาได้ถึง 80% และการได้รับรังสียูวีเพียงเล็กน้อยในแต่ละวันก็สามารถสะสมจนก่ออันตรายร้ายแรงต่อผิวของเราได้ ในเมื่อเราทุกคนอยู่ในประเทศไทยที่มีดัชนีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV Index) เฉลี่ยที่ 11-12 ซึ่งอยู่ในระดับขั้นสูงสุด การป้องกันแดดจึงจำเป็นในทุกที่ทุกเวลาสำหรับทุกเพศทุกวัย ...
8 วิธีสู้ผิวชรา ให้หน้าใส แข็งแรง

8 วิธีสู้ผิวชรา ให้หน้าใส แข็งแรง สู้มลภาวะ

8 วิธีสู้ผิวชรา ให้หน้าใส แข็งแรง สู้มลภาวะ ปัญหาฝุ่นควันและมลพิษในสังคมเมืองเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ผิวถูกทำร้าย การที่เราจะมีผิวแข็งแรงได้นั้น ผิวชั้นนอกของเราต้องมีความหนาในระดับหนึ่ง ความหนาของผิวจะช่วยปกป้องจากมลภาวะต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสารเคมี รังสียูวี เป็นต้น แต่หากผิวชั้นนอกเราบางลง จะทำให้ไม่สามารถปกป้องได้ดีพอ ทำให้ผิวบริเวณนั้นมีอาการแพ้ต่อมลภาวะต่าง ๆ ง่าย อักเสบง่าย สิวขึ้นง่าย และผิวดำคล้ำต่อแดดง่าย ปัจจัยภายในที่ผิวของเราบางลงคือ “ความชรา” หรือ Aging เป็นภาวะที่มีการสะสมของความเสื่อมต่าง ๆ ในร่างกาย การที่เรามีอายุมากขึ้น ทำให้การแบ่งตัวของเซลล์นั้นไม่ค่อยดีนัก จึงทำให้ผิวบางลง รวมทั้งทำให้ผิวกักเก็บความชุ่มชื้นได้น้อยลง โดยแรกเกิดเราจะมีส่วนประกอบของน้ำในร่างกายสูงถึง 75% และจะลดลงเรื่อย ๆ ตามอายุที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นความชุ่มชื้นของผิวก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ผิวแข็งแรง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยภายนอกต่าง ๆ โดยสามารถสรุป 6 ปัจจัยหลัก...
ร่างกายปลอดภัย ชีวิตไม่พัง ศึกษาให้ดีก่อน ศัลยกรรมความงาม

ร่างกายปลอดภัย ชีวิตไม่พัง ศึกษาให้ดีก่อน “ศัลยกรรมความงาม”

ร่างกายปลอดภัย ชีวิตไม่พัง ศึกษาให้ดีก่อน "ศัลยกรรมความงาม" ปัจจุบันการทำศัลยกรรมเป็นที่ยอมรับและนิยมกันอย่างแพร่หลาย เพราะไม่ว่าจะเป็นดารา หรือแม้กระทั่งคนทั่วไป ก็หันมาใช้บริการสวยสั่งได้นี้กันเพิ่มมากขึ้น ทำให้สถานพยาบาลที่เกี่ยวกับความงามเกิดขึ้นมากมายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ซึ่งแน่นอนว่าการทำศัลยกรรมนอกจากจะต้องการเพิ่มความมั่นใจ แก้ไขจุดบกพร้อม เพิ่มความสวยความหล่อแล้ว ยังมีอีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงนั่นคือความเสี่ยงจากการทำศัลยกรรมที่ทำออกมาแล้วจะปังหรือจะพัง และแม้ว่าหลายครั้งจะมีข่าวเรื่องการทำศัลยกรรมที่ผิดพลาด ผลลัพธ์ไม่เป็นไปตามที่ต้องการ แต่หลายคนก็ยังเลือกที่จะทำอยู่ เมื่อปฏิเสธไม่ได้ว่าศัลยกรรมเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต ก็จำเป็นที่ทุกคนต้องหันมาใส่ใจในการเลือกสถานพยาบาล แพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อความปลอดภัยและไม่เสียใจในภายหลัง สำหรับปัจจัยในการทำศัลยกรรมให้สวยและปลอดภัย สิ่งแรกที่ผู้รับบริการควรนึกถึง คือ “การศึกษาหาความรู้เรื่องที่ต้องการทำศัลยกรรมก่อนในเบื้องต้น” เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง เช่น การทำศัลยกรรมทรวงอก มีการผ่าตัดกี่แบบ ควรใช้ซิลิโคนแบบไหน เสริมปริมาณเท่าไรถึงจะไม่อันตราย วิธีดูแลรักษาตัวหลังผ่าตัด เป็นต้น หลังจากที่หาข้อมูลเรื่องการทำศัลยกรรมแล้ว สิ่งที่สำคัญที่ควรทำเป็นอย่างยิ่งคือ “การตรวจสอบข้อมูลสถานพยาบาลและแพทย์ที่ทำหน้าที่รักษาในเรื่องของความน่าเชื่อถือ” โดยผู้รับบริการจะต้องหาข้อมูลเกี่ยวกับสถานพยาบาลนั้นๆ ว่าต้องถูกกฎหมายมีใบรับรองหรือไม่ แพทย์ที่รักษาหรือศัลยแพทย์ต้องเป็นแพทย์แผนปัจจุบัน...
ลดน้ำหนัก 12 กิโลใน 4 ปี สวยได้โดยไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน

ลดน้ำหนัก 12 กิโลใน 4 ปี!! สวยได้โดยไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน

ลดน้ำหนัก 12 กิโลใน 4 ปี!! สวยได้โดยไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน สาวๆที่กำลังประสบปัญหาความอ้วนมาเยือน แล้วกำลังมองหาวิธีลดความอ้วนแบบปลอดภัยไม่เร่งรีบ ไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วน ลองมาอ่านประสบการณ์การลดน้ำหนักของคุณสมาชิกหมายเลข 4181144 สมาชิกเว็บไซต์พันทิป ได้ออกมาแชร์ประสบการณ์การลดน้ำหนักของตัวเอง 12 กิโลที่ใช้เวลายาวนานถึง 4 ปี และเธอก็ทำสำเร็จ โดยที่เธอไม่ต้องพึ่งยาลดความอ้วนเลย เธอเล่าในอดีตเธอเคยกินยาลดน้ำหนัก มันทำให้น้ำหนักลดจริง แต่พอหยุดกินยาน้ำหนักก็กลับขึ้นมาเหมือนเดิมหรือมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ และที่สำคัญมันทำให้ ระบบเผาผลาญพัง หลังจากนั้นเธอจึงหันมาใช้วิธีการออกกำลังกายและการควบคุมอาหารแทน โดยเปลี่ยนพฤติกรรมการกินอย่างแรก งดกาแฟสด เพราะเธอเป็นคนที่ติดกาแฟสดมาก ต่อมาเธอก็ลดอาหารพวกแป้ง ไขมัน น้ำตาล เธอจะไปคำนวณหาค่า BMI และ BMR ก่อน...
รองเท้าสุขภาพ เทรนด์ของขวัญปีใหม่มาแรง เลือกอย่างไรให้โดนใจผู้รับ

รองเท้าสุขภาพ เทรนด์ของขวัญปีใหม่มาแรง!! เลือกอย่างไรให้โดนใจผู้รับ

รองเท้าสุขภาพ เทรนด์ของขวัญปีใหม่มาแรง!! เลือกอย่างไรให้โดนใจผู้รับ เทศกาลปีใหม่ใกล้เข้ามาแล้ว เสียงเพลง แสงไฟ ความรื่นเริง การเฉลิมฉลอง และการมอบความสุขกำลังจะเริ่มขึ้น การช้อปปิ้งตามหาของขวัญพิเศษสำหรับคนพิเศษ จึงกลายเป็นภารกิจหลักในช่วงเทศกาลนี้ เพราะทุกคนต่างก็อยากหาของขวัญที่ทำให้ผู้รับปลื้มปริ่มยิ้มไม่หยุดกันอย่างแน่นอน แต่ของขวัญแบบไหนที่จะแสดงถึงความรักและความห่วงใยให้กับคนพิเศษชองเราได้ดี เทรนด์ของขวัญปีใหม่ที่มาแรงในปีนี้ คงหนีไม่พ้นของขวัญสายสุขภาพที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบันที่ผู้คนหันมาใส่ใจสุขภาพกันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังกาย การทานอาหารคลีน หรือแม้กระทั่งการใส่รองเท้าเพื่อสุขภาพที่ถือว่าอินเทรนด์มาก และเริ่มเข้ามามีบทบาทในชีวิตของเรามากขึ้น เนื่องจากในชีวิตประจำวันเราใช้งานเท้าตลอดทั้งวัน รองเท้าสุขภาพที่ดีจะสามารถดูแลสุขภาพเท้า ส้นเท้า เข่า และกระดูกเท้าของผู้สวมใส่ได้ดี และยังทำให้ผู้ใส่มีความสุขกับการเดินและการทำกิจกรรมต่างๆ มากขึ้น ด้วยเหตุนี้ รองเท้าสุขภาพจึงได้กลายเป็นของขวัญพิเศษที่เพิ่มรอยยิ้มให้ทั้งผู้รับและผู้ให้ในโอกาสพิเศษนี้ได้ดีเยี่ยม ในปัจจุบัน มีรองเท้าสุขภาพหลากหลายแบรนด์ หลายคนอาจจะเลือกไม่ถูก วันนี้เราจะมาเผย 6 ทริคการดูและเลือกซื้อรองเท้าสุขภาพ ที่ถูกต้องตามหลักศาสตร์กระดูกและเท้า หรือที่รู้จักกันในชื่อของศาสตร์ออร์โธปิดิกส์ (Orthopedics) รองเท้าสุขภาพที่ดีต้องมีส่วนซัพพอร์ตอุ้งเท้า (arch support) ส่วนซัพพอร์ตอุ้งเท้านี้เป็นส่วนที่รองรับส่วนโค้งเว้าใต้ฝ่าเท้า...
WordPress Ads